เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านถุงเท้าประสบการณ์กว่า 60 ปี

ติดต่อเรา
+66 (0) 2 754 2767

thaisockdev / 20 Nov, 2024

ไขปริศนาทำไมวันคริสต์มาสต้องใส่ถุงเท้า

วันคริสต์มาสเป็นเทศกาลที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก ที่ไม่เพียงแค่เป็นที่นิยมในประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์เท่านั้น แต่ยังเป็นที่นิยมในประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้เช่นกัน โดยการเฉลิมฉลองคริสต์มาสเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ก็เป็นเพราะว่าเป็นช่วงเทศกาลของความรัก การแบ่งปัน และการส่งความสุขให้แก่กัน ที่ให้ครอบครัว และเพื่อนฝูงมารวมตัวกันเฉลิมฉลองในบรรยากาศที่อบอุ่น

โดยหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของวันคริสต์มาส คือ “การแขวนถุงเท้า” ที่มักจะถูกแขวนไว้ที่ขอบเตาผิง หรือสถานที่อื่นๆ ในบ้าน เพื่อรอรับของขวัญจากซานตาคลอส ซึ่งการแขวนถุงเท้านั้นก็เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน และมีความเชื่อว่าในคืนวันคริสต์มาส ซานตาคลอสจะเดินทางมามอบของขวัญโดยใส่ลงในถุงเท้า ที่ทำให้ประเพณีนี้ไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนานให้กับเด็กๆ เท่านั้น แต่ยังสร้างบรรยากาศแห่งความหวัง และการรอคอยที่น่าตื่นเต้นอีกด้วย

ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Thai Sock จึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าการแขวนถุงเท้าวันคริสต์มาสนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากไหน ได้ของขวัญจริงหรือไม่ แขวนแล้วได้ประโยชน์อะไร และถ้าหากอยากแขวนถุงเท้าควรเลือกแขวนแบบไหนดี ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้นสามารถติดตามกันได้เลย!

การแขวนถุงเท้าวันคริสต์มาสมีจุดเริ่มต้นมาจากไหน?

การแขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาส เป็นประเพณีที่มีต้นกำเนิดมาจากเรื่องเล่าในตำนานของนักบุญนิโคลัส (Saint Nicholas) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ซานตาคลอส” โดยในตำนานนั้นได้เล่าว่านักบุญนิโคลัสเป็นบิชอปที่มีใจเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ และชอบช่วยเหลือคนยากจน และเขามักจะมอบของขวัญให้กับเด็กๆ โดยไม่ให้พวกเขารู้ตัว ซึ่งเรื่องราวที่เชื่อกันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของวันคริสต์มาสห้อยถุงเท้านั้นเกิดขึ้นในยุคกลาง เมื่อมีครอบครัวหนึ่งที่มีพ่อม่าย และลูกสาวสามคนที่มีฐานะยากจนมาก จนไม่สามารถหาของขวัญ หรือค่าสินสอดสำหรับการแต่งงานของลูกสาวได้ และเมื่อนักบุญนิโคลัสทราบเรื่องราวนี้ ในคืนหนึ่งเขาก็ได้แอบมอบเงินเหรียญทองให้ครอบครัวนี้ ด้วยการหย่อนมันลงผ่านปล่องไฟของบ้าน และเงินเหรียญทองเหล่านั้นบังเอิญตกลงไปในถุงเท้าที่ลูกสาวทั้งสามแขวนไว้ใกล้เตาผิง เพื่อให้แห้งจากความชื้น และเมื่อครอบครัวพบเงินทองในถุงเท้า พวกเขาก็สามารถใช้เป็นค่าสินสอดให้ลูกสาวได้แต่งงาน ทำให้เรื่องเล่านี้แพร่กระจายไปทั่ว และกลายเป็นที่มาของประเพณีการแขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาสนั่นเอง

โดยนักบุญนิโคลัสได้รับการยกย่องในฐานะผู้มีเมตตา และการกระทำของเขาก็ได้ถูกเล่าขานกันมาในรูปแบบต่างๆ จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 ตำนานของนักบุญนิโคลัสถูกนำมาผสมผสานกับภาพลักษณ์ของซานตาคลอสในวรรณกรรม และบทกวี จึงทำให้ซานตาคลอสกลายเป็นบุคคลสำคัญในเทศกาลคริสต์มาส ที่จะเดินทางมาแจกของขวัญให้กับเด็กๆ ในคืนวันคริสต์มาสอีฟ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การแขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาสก็กลายเป็นประเพณีที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศตะวันตก ที่ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ก็มักจะร่วมทำกิจกรรมนี้ เพื่อสร้างความสุข และความทรงจำที่ดีในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

แขวนถุงเท้าวันคริสต์มาสแล้วจะได้ของขวัญจริงหรือไม่?

การแขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาสเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความหวัง และการรอคอยของขวัญจากซานตาคลอส โดยเรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นจากตำนานของนักบุญนิโคลัส และได้แพร่หลายจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมคริสต์มาส แต่ถึงแม้ว่าความเชื่อนี้จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความสนุกสนาน แต่ในความเป็นจริง การแขวนถุงเท้ากลายเป็นกิจกรรมที่ผู้ปกครองใช้สร้างความสุขให้กับลูกๆ ด้วยการมอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ใส่ไว้ในถุงเท้าของพวกเขา และสำหรับเด็กๆ ในหลายๆ ประเทศ การแขวนถุงเท้าถือเป็นกิจกรรมที่พวกเขาเฝ้าคอย และตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขามักจะตื่นมาในเช้าวันคริสต์มาส และพบของขวัญ หรือขนมอยู่ในถุงเท้าเสมอ ที่แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่มาจากพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยสร้างความประทับใจ และความสุขให้กับเด็กๆ ได้ในช่วงเทศกาลคริมต์มาสของทุกปี

โดยในปัจจุบันนั้นการแขวนถุงเท้าก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองคริสต์มาสในหลายครอบครัว ที่แม้ว่าของขวัญที่ได้อาจไม่ได้มาจากซานตาคลอสจริงๆ แต่ความหมายของการมอบของขวัญให้กันและกันในเทศกาลคริสต์มาส คือ การแสดงความรัก ความห่วงใย และการแบ่งปันความสุขในช่วงเทศกาล ทำให้การแขวนถุงเท้านั้นกลายเป็นทั้งประเพณี และกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความอบอุ่นในครอบครัว

แขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาสมีประโยชน์อะไรบ้าง?

ถึงแม้ว่าการแขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาสนั้นจะเป็นกิจกรรมหลักที่หลายๆ คนจะต้องทำกันในทุกปี และดูเหมือนจะเป็นธรรมเนียม หรือประเพณีที่ไม่ว่าใครก็จะต้องทำ แต่ว่าการแขวนถุงเท้านั้นมีประโยชน์มากกว่าที่ทุกคนคิด โดยประโยชน์ของการแขวนถุงเท้าวันคริสต์มาส มีดังนี้

  • สืบสานวัฒนธรรม และประเพณี การแขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาสเป็นการสืบสานประเพณีที่มีมายาวนาน และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลคริสต์มาส ดังนั้น การทำตามธรรมเนียมนี้ก็จะช่วยเชื่อมโยงความสัมพันธ์ และสร้างความต่อเนื่องให้กับวัฒนธรรมคริสต์มาสในครอบครัว
  • ส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว การแขวนถุงเท้า และการรอคอยของขวัญจากซานตาคลอสเป็นกิจกรรมที่สมาชิกในครอบครัวสามารถมีส่วนร่วมได้ ทำให้เกิดความสนิทสนม และความอบอุ่นภายในบ้าน โดยเฉพาะการที่เด็กๆ ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการตกแต่งต้นคริสต์มาส และตกแต่งบ้านให้เข้ากับเทศกาล และทำให้บรรยากาศภายในบ้านมีความอบอุ่นมากขึ้น
  • ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การตกแต่งต้นคริสต์มาส ตกแต่งบ้าน หรือการเลือกถุงเท้าในวันคริสต์มาส ทำให้เด็กๆ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ และการตกแต่ง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ทักษะด้านศิลปะ และการออกแบบผ่านกิจกรรมสนุกๆ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
  • รู้จักให้ และรู้จักรับ การแขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาสไม่ใช่แค่การรอคอยของขวัญเท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียนรู้การแบ่งปันให้กับผู้อื่นด้วย ดังนั้น การให้ และรับของขวัญในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ถือว่าเป็นการสอนให้เด็กๆ รู้ถึงความสำคัญของความมีน้ำใจ การเห็นคุณค่าของผู้อื่น และความสำคัญของการตอบแทนในทางที่ดี
  • สร้างความทรงจำที่ดีในวัยเด็ก การแขวนถุงเท้าเป็นกิจกรรมที่สามารถสร้างความทรงจำที่มีคุณค่าสำหรับเด็กๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกถุงเท้ามาแขวน การรอคอยของขวัญจากซานตาคลอส หรือการได้ร่วมกิจกรรมกับครอบครัว ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่เด็กๆ จะจดจำไปตลอดชีวิต
  • ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านต่างๆ การแขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาสนั้นสามารถช่วยสอนเด็กๆ เรื่องวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของเทศกาล ทำให้เด็กๆ เรียนรู้เรื่องราวของซานตาคลอส ความหมายของการให้ของขวัญ และความสำคัญของการเฉลิมฉลองร่วมกันได้

แขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาส อยากแขวนถุงเท้าวันคริสต์มาสควรเลือกแบบไหนดี?

ถ้าหากใครที่ชื่นชอบเทศกาลวันคริสต์มาส และในวันคริสต์มาสอยากแขวนถุงเท้าเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ว่าไม่รู้จะเลือกถุงเท้าแบบไหนดี ดังนั้น ในหัวข้อนี้ทาง Thai Sock ก็จะพามาดูวิธีการเลือกถุงเท้าแบบง่ายๆ ที่ในวันคริสต์มาสจะได้ห้อยถุงเท้าแบบไม่ตกเทรนด์ และหยิบมาใช้งานได้ทุกปี โดยจะมีวิธีเลือกอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย!

  • เลือกถุงเท้าที่มีสีสันสดใส โดยเฉพาะสีแดง สีเขียว และสีขาว ที่เป็นสีที่นิยมสำหรับการแขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาส เพราะเป็นสีที่เชื่อมโยงกับเทศกาลคริสต์มาสโดยตรง อย่างสีแดงก็จะเป็นสีที่เห็นได้บ่อยที่สุด เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความอบอุ่น และเชื่อมโยงกับความเชื่อทางศาสนาคริสต์ที่สื่อถึงความรักอันบริสุทธิ์ของพระเยซู และการเสียสละเพื่อมวลมนุษย์ อีกทั้งยังเป็นสีของเสื้อผ้าของซานตาคลอสที่เด็กๆ รู้จักกันดี ทำให้สีแดงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข และการเฉลิมฉลองในเทศกาลนี้ หรือสีเขียวที่มีความหมายถึงความหวัง การฟื้นคืนชีพ และการเติบโตในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเชื่อมโยงกับต้นคริสต์มาสที่เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่ยั่งยืน และสีขาว ที่เป็นสีของหิมะที่ปกคลุมในฤดูหนาว สื่อถึงความบริสุทธิ์ และความสงบสุข และยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ และการเกิดใหม่ในศาสนาคริสต์ด้วย
  • ขนาดของถุงเท้า การเลือกถุงเท้าที่ใช้แขวนในวันคริสต์มาสนั้นควรมีขนาดใหญ่พอที่จะใส่ของขวัญได้ แต่ถ้าหากเด็กๆ หรือผู้ปกครองหาถุงเท้าที่มีขนาดใหญ่ไม่ได้ ก็สามารถใช้ถุงเท้าที่มี หรือใช้อันที่หาซื้อได้ตามท้องตลาดก็ได้เช่นกัน
  • วัสดุของถุงเท้า ควรเลือกถุงเท้าที่ทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น ผ้าฝ้าย หรือผ้าขนสัตว์เทียม เพื่อให้ถุงเท้าสามารถรองรับน้ำหนักของขวัญได้โดยไม่ฉีกขาดง่าย หรือถ้าหากเป็นถุงเท้าทั่วไป ก็ยังนำมาสวมใส่ต่อได้อีกด้วย
  • ถุงเท้าที่มีลวดลาย เป็นการเลือกถุงเท้าที่มีลวดลายคริสต์มาส เช่น ลายต้นคริสต์มาส ลายเกล็ดหิมะ หรือลายซานตาคลอส เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความน่ารักแล้ว ยังถือว่าเป็นไอเทมในการตกแต่งบ้านในช่วงเทศคริสต์มาสอีกด้วย
  • เลือกถุงเท้าที่สามารถปรับใช้ได้ทุกปี การเลือกถุงเท้าที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในปีต่อๆ ไปจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และยังเป็นการสืบสานประเพณีคริสต์มาสให้ยาวนานขึ้น อย่างเช่น ถุงเท้าโทนสีแดง สีเขียว สีขาว หรือมีลวดลายของเทศกาลคริสต์มาส เป็นต้น

นอกจากแขวนถุงเท้าแล้ว ยังมีกิจกรรมไหนที่ควรทำในวันคริสต์มาสอีกบ้าง?

นอกจากกิจกรรมแขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาสแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นที่นิยมในวันคริสต์มาสเช่นกัน โดยแต่ละกิจกรรมที่ควรทำในวันคริสต์มาสนั้นก็มีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

  • การตกแต่งต้นคริสต์มาส เป็นกิจกรรมยอดนิยมที่จะทำการตกแต่งต้นคริสต์มาสภายในบ้าน และเป็นกิจกรรมที่ทุกคนในครอบครัวสามารถมีส่วนร่วมได้ ซึ่งสามารถช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น และสนุกสนานในบ้านได้เป็นอย่างดี
  • แลกของขวัญกับครอบครัว และเพื่อนฝูง เป็นกิจกรรมที่จะทำการแลกของขวัญระหว่างคนในครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนรู้จัก ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สามารถสร้างความสุข และความประทับใจ ทำให้ทุกคนได้แสดงความรัก และความห่วงใยต่อกัน
  • ทำอาหาร หรือขนมคริสต์มาส ไม่ว่าจะเป็นการทำเมนูอาหารต่างๆ หรือการทำขนม เช่น คุกกี้ขนมปังขิง หรือเค้กผลไม้ ก็เป็นกิจกรรมที่ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่สามารถร่วมสนุกกันได้ และช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในบ้านอีกด้วย
  • ร้องเพลงคริสต์มาส (Caroling) เป็นกิจกรรมที่ทุกคนจะทำการร้องเพลงคริสต์มาส หรือฟังเพลงคริสต์มาส เป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างความสนุกสนาน ความบันเทิง และเพิ่มบรรยากาศแห่งความสุขในวันคริสต์มาสได้แบบง่ายๆ
  • เล่นเกม หรือกิจกรรมสำหรับครอบครัว เป็นการจัดกิจกรรม หรือเล่นเกมสนุกๆ ในครอบครัว เช่น เกมจับฉลาก เกมต่อเพลง เกมบิงโก หรือเกมอื่นๆ ที่จะช่วยสร้างความสนิทสนม และความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวมากขึ้น
  • ส่งการ์ดคริสต์มาสให้คนที่คุณรัก เป็นกิจกรรมที่จะทำการการส่งการ์ดคริสต์มาสให้กับครอบครัว เพื่อน หรือคนสำคัญ ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย และอบอุ่นในการแสดงความรัก และความห่วงใยได้แบบง่ายๆ
  • บริจาคของขวัญ หรือช่วยเหลือผู้ยากไร้ เป็นกิจกรรมที่จะทำการบริจาคของขวัญ หรือทำกิจกรรมจิตอาสาในวันคริสต์มาส ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยส่งต่อความรัก และความหวังให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ที่นอกจากจะช่วยสร้างความสุขให้กับตัวเอง และผู้รับแล้ว ก็ยังถือว่าเป็นการทำความดีไปพร้อมๆ กันด้วย

 

 

การแขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาส เป็นธรรมเนียมที่มีต้นกำเนิดจากเรื่องเล่าโบราณเกี่ยวกับนักบุญนิโคลัส ผู้ที่คอยมอบของขวัญให้เด็กๆ โดยการใส่ของขวัญไว้ในถุงเท้าที่แขวนไว้บนปล่องไฟ ทำให้ประเพณีนี้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการให้ และการได้รับในช่วงคริสต์มาส ที่มีความเชื่อว่าหากแขวนถุงเท้าไว้ในวันคริสต์มาสจะได้รับของขวัญจากซานตาคลอส และยังมีประโยชน์ในการสืบสานวัฒนธรรม ส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว สร้างความคิดสร้างสรรค์ และให้เด็กๆ เรียนรู้เกี่ยวกับการให้ และการรับ ที่ช่วยสร้างความทรงจำที่ดีในวัยเด็ก และสร้างบรรยากาศแห่งความอบอุ่นในครอบครัวได้เป็นอย่างดี

Tags: Lifestyle