เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านถุงเท้าประสบการณ์กว่า 60 ปี

ติดต่อเรา
+66 (0) 2 754 2767

thaisockdev / 19 Nov, 2024

แจก 10 วิธีขจัดกลิ่นถุงเท้า จัดการยังไงให้ถุงเท้าหายเหม็น

การสวมใส่ถุงเท้าในปัจจุบันนั้นกลายเป็นเรื่องจำเป็น และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการใส่การใส่ถุงเท้าในชีวิตประจำวัน เพื่อเคลื่อนไหวได้สะดวกสบาย หรือเพื่อความเรียบร้อยในโอกาสทางการต่างๆ หรือการใส่ถุงเท้ากับรองเท้ากีฬา เพื่อความสะดวกสบายในขณะออกกำลังกาย แต่ว่าถุงเท้าที่ถูกสวมใส่เป็นประจำก็มีโอกาสเกิดกลิ่นเหม็นได้ และปัญหาถุงเท้าเหม็นนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การสะสมของเหงื่อ และความชื้นในระหว่างการใช้งาน การระบายอากาศที่ไม่ดีในรองเท้า หรือการซักถุงเท้าที่ไม่สะอาดเพียงพอ จนทำให้แบคทีเรีย และเชื้อรามีโอกาสเจริญเติบโต

 

ดังนั้น ถ้าหากปล่อยให้ถุงเท้ามีกลิ่นเหม็นโดยไม่จัดการอย่างถูกต้อง สามารถสร้างความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน และสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพเท้าได้ เช่น การเกิดเชื้อรา เกิดการระคายเคืองผิว ผื่นคัน หรือโรคผิวหนังอักเสบ เป็นต้น นอกจากนั้นกลิ่นเหม็นจากถุงเท้ายังอาจส่งผลให้สภาพแวดล้อมรอบตัวไม่สดชื่น และทำให้การอยู่ร่วมกับผู้อื่นเกิดความไม่สะดวกสบายด้วย

 

เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าว การดูแล การซักถุงเท้าให้หายเหม็น และจัดการกับถุงเท้าอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ขจัดกลิ่นถุงเท้าได้ ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Thai Sock ก็จะมาแจก 10 วิธีซักถุงเท้า ที่จะช่วยให้ถุงเท้าของทุกคนกลับมาหอม สะอาด และพร้อมใช้งานโดยไม่มีกลิ่นอับอีกต่อไป

1. แช่ถุงเท้าก่อนซักทุกครั้ง

การแช่ถุงเท้าก่อนซักทุกครั้ง เป็นวิธีซักถุงเท้าที่สามารถช่วยลดกลิ่นเหม็นอับที่สะสมอยู่ในเนื้อผ้าได้เป็นอย่างดี เพียงแค่แช่ถุงเท้าในน้ำผสมกับน้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับผ้า เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นอับ และแช่เป็นระยะเวลาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก่อนซัก ก็สามารถช่วยขจัดกลิ่น ช่วยทำให้คราบสกปรกที่ฝังแน่นหลุดออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

โดยเหตุผลที่การแช่ถุงเท้าก่อนซักสามารถช่วยซักถุงเท้าให้หายเหม็นอย่างมีประสิทธิภาพได้ ก็เพราะว่ากลิ่นเหม็นที่เกิดจากแบคทีเรียนั้นสามารถสะสมอยู่ในถุงเท้าที่เราใส่เป็นเวลานาน โดยเฉพาะถ้าเราใส่ถุงเท้าในกิจกรรมที่ทำให้เท้าเหงื่อออก เช่น การเล่นกีฬา การเดินทางไกล หรือการใช้ชีวิตประจำวัน เป็นต้น

ดังนั้น การแช่ในน้ำผสมน้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาฆ่าเชื้อจะช่วยกำจัดแบคทีเรีย และเชื้อราที่อาจสะสมอยู่ในถุงเท้าได้ ทำให้ถุงเท้าสะอาด และไม่มีกลิ่นอับ และยังเป็นวิธีที่ช่วยถนอมเนื้อผ้า ไม่ให้ถุงเท้าเสียหายจากการซักที่รุนแรงเกินไป โดยเฉพาะถุงเท้าที่ทำจากเนื้อผ้าอ่อนนุ่ม หรือมีลวดลายที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษอีกด้วย

2. เลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าให้เหมาะสม

การเลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าให้เหมาะสม เป็นวิธีซักถุงเท้าที่สามารถช่วยกำจัดกลิ่นถุงเท้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกำจัดกลิ่น หรือสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น น้ำยาซักผ้าที่มีสารออกฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราโดยเฉพาะ

โดยการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมนั้นจะช่วยให้ซักถุงเท้าให้หายเหม็นได้ง่ายมากขึ้น เพราะสารเคมีที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ซักผ้าจะทำหน้าที่เข้าไปทำลายแบคทีเรีย และเชื้อราที่สะสมอยู่ในถุงเท้า นอกจากจะทำให้ถุงเท้าสะอาดแล้ว ยังช่วยให้ถุงเท้ามีกลิ่นหอมสดชื่นหลังการซัก นอกจากนี้ยังควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับชนิดผ้าของถุงเท้าด้วย เพราะว่าการเลือกผลิตภัณฑ์ถุงเท้าที่ดี ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องกลิ่นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เนื้อผ้าของถุงเท้าไม่เสียหาย สีไม่ซีดจาง และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นด้วย

3. ซักถุงเท้าด้วยมือ หรือเครื่องซักผ้าให้ถูกต้อง

การซักถุงเท้าให้ถูกวิธี เป็นขั้นตอนการซักถุงเท้าที่สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะซักถุงเท้าด้วยมือ หรือซักด้วยเครื่องซักผ้าก็ตาม เพราะว่าการซักถุงเท้าอย่างถูกต้อง จะช่วยกำจัดกลิ่นอับ โดยแต่ละวิธีซักถุงเท้านั้นมีรายละเอียด ดังนี้

  • ซักถุงเท้าด้วยมือ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่เหมาะสม และขัดถูถุงเท้าบริเวณที่มีคราบ หรือกลิ่นสะสม เช่น ส่วนที่สัมผัสกับพื้นรองเท้า เพราะส่วนนี้มักจะมีคราบเหงื่อ และกลิ่นอับติดอยู่มากกว่าส่วนอื่น
  • ซักถุงเท้าด้วยเครื่องซักผ้า ควรใส่ถุงเท้าในถุงซักผ้า หรือตั้งโปรแกรมให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าของถุงเท้า ด้วยการใช้โปรแกรมซักที่อ่อนโยน หรือตั้งอุณหภูมิในการซักที่เหมาะสม พร้อมกับใช้ผลิคภัณฑ์ซักผ้าที่เหมาะกับการซักถุงเท้า เพื่อช่วยรักษาคุณภาพของถุงเท้า ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และช่วยกำจัดกลิ่นอับได้ดียิ่งขึ้น

ดังนั้น ถ้าหากอยากซักถุงเท้าให้หายเหม็น สะอาด ปราศจากกลิ่นอับ และยังคงคุณภาพเนื้อผ้าให้อยู่ในสภาพดี ใช้งานได้นานมากขึ้น ก็ควรเลือกใช้วิธีซักถุงเท้าที่ถูกต้อง และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

4. ล้างทำความสะอาดให้หมดจด

การล้างทำความสะอาดถุงเท้าให้หมดจด เป็นขั้นตอนการซักถุงเท้าที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยควรล้างน้ำเปล่าอย่างน้อย 2-3 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าสารเคมีทั้งหมดถูกชะล้างออกไปแล้ว เพราะถ้าหากล้างทำความสะอาดถุงเท้าไม่ดี ยังมีน้ำยาซักผ้า หรือสารเคมีหลงเหลืออยู่ในเนื้อผ้า อาจทำให้เกิดการสะสมของสารเคมีที่ส่งผลต่อผิวหนัง หรือทำให้เนื้อผ้าเสื่อมคุณภาพเร็วขึ้น

นอกจากนั้นการล้างถุงเท้าให้สะอาด ยังเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันการเกิดกลิ่นอับซ้ำ เพราะว่าถ้าหากมีสารเคมีตกค้างในถุงเท้า และเมื่อถุงเท้าแห้งไม่สนิท สารเหล่านั้นอาจส่งผลให้ถุงเท้ามีกลิ่นอับ กลิ่นเหม็น หรือความชื้นสะสม แถมยังมีความสะอาด ปลอดภัยต่อการใช้งาน ลดการสะสมของกลิ่นอับในระยะยาว และช่วยป้องกันการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นกับผิวหนัง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือแพ้ง่าย

5. ตากถุงเท้าให้แห้งสนิท

หลังจากทำการซักถุงเท้า และล้างถุงเท้าให้สะอาดแล้ว การตากถุงเท้าให้แห้งสนิท เป็นวิธีซักถุงเท้าที่สำคัญที่ช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นอับซ้ำอีกครั้ง ด้วยการตากถุงเท้าไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เช่น ตากในที่มีแสงแดด หรือในบริเวณที่มีลมพัดผ่าน เพื่อช่วยให้ถุงเท้าแห้งเร็วขึ้น แห้งสนิท และป้องกันความชื้นสะสมได้ดี

โดยเหตุผลของการตากถุงเท้าให้แห้งสนิท เป็นขั้นตอนการซักถุงเท้าที่มีความสำคัญ นั่นก็เพราะว่าความชื้นในถุงเท้าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราชั้นดี และเมื่อถุงเท้าไม่ได้รับการตากให้แห้งสนิท ถึงแม้จะซักสะอาดแล้วก็ตาม ก็อาจทำให้กลิ่นอับเกิดขึ้นได้อีกครั้ง ดังนั้น การตากในที่แดดจัด มีแสงแดดส่องถึง หรือมีลมพัดผ่าน ก็จะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่อาจหลงเหลืออยู่ในเนื้อผ้า และทำให้ถุงเท้าปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ แถมยังช่วยรักษาเนื้อผ้า ดูใหม่อยู่เสมอ และยืดอายุการใช้งานได้เป็นอย่างดี

6. เก็บรักษาถุงเท้าหลังซักให้ดี

นอกจากจะให้ความใส่ใจต่อขั้นตอนการซักถุงเท้าแล้ว การเก็บรักษาถุงเท้าหลังซักให้ดี ก็เป็นอีกขั้นตอนซักถุงเท้าให้หายเหม็น โดยทำการเก็บถุงเท้าในที่แห้ง และอากาศถ่ายเทสะดวก เช่น ตู้เสื้อผ้า หรือลิ้นชักที่ปิดมิดชิด และควรหลีกเลี่ยงการเก็บไว้ในที่อับชื้น หรือในตะกร้าผ้าที่มีความชื้น เพราะอาจทำให้มีกลิ่นอับได้ง่าย ซึ่งการเก็บถุงเท้าหลังซักให้เรียบร้อย และเก็บในที่ที่เหมาะสมนั้นไม่ได้เพียงแค่ช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นอับ ความชื้น หรือกลิ่นเหม็นเท่านั้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของถุงเท้าให้ยาวนานขึ้น พร้อมใช้งานในครั้งถัดไปโดยไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ รู้สึกสวมใส่สบายทุกครั้งที่หยิบมาใช้ และถ้าหากมีการใช้กลิ่นหอมจากถุงหอมที่ใส่ในตู้เสื้อผ้า หรือกล่องเก็บเสื้อผ้าร่วมด้วย ก็จะช่วยให้ถุงเท้าหอมได้นานยิ่งขึ้น และช่วยป้องกันกลิ่นได้ในระยะยาวอีกด้วย

7. เลือกสวมใส่ถุงเท้าที่เหมาะสม

การเลือกสวมใส่ถุงเท้าที่เหมาะสม เป็นอีกสิ่งที่ควรให้ความสำคัญนอกจากจากวิธีซักถุงเท้า เพราะว่าการเลือกใส่ถุงเท้าที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง ทั้งในเรื่องของเนื้อผ้า ขนาด การทำกิจกรรม หรือสภาพอากาศ สามารถส่งผลให้เกิดกลิ่นอับได้ง่าย ดังนั้น จึงควรเลือกสวมใส่ถุงเท้าที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่มีกลิ่นเท้าง่าย หรือเหงื่อออกที่เท้าเยอะ ที่ควรเลือกถุงเท้าที่มีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดี และดูดซับความชื้น ที่จะช่วยลดการสะสมของเหงื่อ และแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็น และควรเลือกถุงเท้าที่ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพ เช่น ผ้าฝ้าย หรือผ้าสังเคราะห์ที่มีเทคโนโลยีการระบายความชื้น รวมถึงควรเลือกถุงเท้าที่มีความบาง หรือความหนาตามความเหมาะสมของกิจกรรม เลือกถุงเท้าที่มีขนาดพอดีกับเท้า เพื่อช่วยลดการเกิดความชื้นและการเสียดสี ทำให้เท้ารู้สึกสบาย และลดโอกาสการเกิดกลิ่นอับได้อีกด้วย และถ้าหากต้องการทำกิจกรรม เช่น การออกกำลังกาย เล่นฟุตบอล หรือทำกิจกรรมต่างๆ ก็ควรเลือกถุงเท้าที่ออกแบบมาเพื่อกิจกรรมเหล่านั้นโดยเฉพาะ เพราะสามารถระบายความร้อน และลดการสะสมของแบคทีเรีย ที่ช่วยป้องกันกลิ่นอับได้ดีกว่าถุงเท้าทั่วไป

8. ใช้แป้ง หรือสเปรย์ดับกลิ่นร่วมด้วย

การใช้แป้ง หรือสเปรย์ดับกลิ่นร่วมกับการใช้วิธีซักถุงเท้าที่ถูกต้อง เป็นตัวช่วยที่สามารถช่วยขจัดกลิ่นถุงเท้า และเท้าได้เป็นอย่างดี เพราะจะทำให้กลิ่นอับหายไป และช่วยให้ถุงเท้าสะอาด และมีกลิ่นหอมสดชื่น ด้วยคุณสมบัติของแป้งดับกลิ่นจะช่วยดูดซับความชื้นจากเหงื่อ ทำให้เท้ารู้สึกแห้ง และสบายตลอดวัน และสเปรย์ดับกลิ่นที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยู่ในถุงเท้า และรองเท้าที่เป็นสาเหตุหลักของกลิ่นเหม็น

ดังนั้น การใช้แป้ง หรือสเปรย์ดับกลิ่นไม่เพียงแต่ช่วยขจัดกลิ่นถุงเท้าเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นในระยะยาวอีกด้วย เพียงแค่โรยแป้ง หรือฉีดเสปรย์ดับกลิ่นบนเท้า และถุงเท้าก่อนการสวมใส่ เพื่อให้สารดับกลิ่นทำงานตลอดวันที่สวมถุงเท้า ก็จะช่วยให้เท้ารู้สึกสบายตลอดทั้งวัน และมั่นใจในการทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้นด้วย

9. ไม่สวมใส่ถุงเท้าคู่กับรองเท้าเปียก

การสวมถุงเท้าคู่กับรองเท้าเปียก เป็นสาเหตุที่ทำให้ถุงเท้า และเท้าเกิดกลิ่นเหม็นได้ง่าย เพราะว่าความชื้นในรองเท้าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรีย และเชื้อราที่ทำให้เกิดกลิ่น ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าที่ยังไม่แห้งสนิทกับถุงเท้า เพราะถึงแม้จะใช้วิธีซักถุงเท้าที่ถูกต้อง แต่ถ้าหากใส่คู่กับรองเท้าเปียก ก็จะทำให้ถุงเท้าดูดซับความชื้น และกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย

โดยวิธีที่ดีที่สุด คือ ควรรอให้รองเท้าแห้งสนิทก่อนการสวมใส่ หรือเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่ เพื่อช่วยลดกลิ่นอับ และช่วยลดปัญหาผิวหนัง เช่น การเกิดเชื้อราที่เท้า และทำให้เท้ารู้สึกสบายมากขึ้นอีกด้วย แต่ถ้าหากรองเท้าเปียก และจำเป็นต้องใช้งานทันที ควรเปลี่ยนถุงเท้าบ่อยครั้งในระหว่างวัน เพื่อให้เท้าแห้ง และลดความชื้นที่จะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับได้

10. ดูแลเท้าให้แห้งสะอาดเป็นประจำ

การดูแลเท้าให้แห้ง และสะอาดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันกลิ่นอับ หรือกลิ่นเหม็นได้ โดยการล้างเท้าให้สะอาด และเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังทำกิจกรรม หรือก่อนสวมใส่ถุงเท้า จะช่วยลดการสะสมของเหงื่อ และแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นได้ รวมถึงการดูแลเล็บเท้า และการขัดผิวเท้า เพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วก็จะช่วยป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก และเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี

โดยวิธีการดูแลเท้าที่ถูกต้องนั้นจะต้องล้างเท้าให้สะอาด และเช็ดให้แห้งสนิททุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า เพราะเป็นบริเวณที่มักเป็นแหล่งสะสมของความชื้นที่ทำให้เกิดกลิ่น และถ้าหากใช้แป้ง หรือสเปรย์ดับกลิ่นร่วมกับการดูแลเท้าเป็นประจำ รวมถึงใช้วิธีซักถุงเท้าที่ถูกต้อง ก็จะช่วยให้เท้ามีความสะอาด สุขภาพเท้าดี ไม่กลิ่นอับ และไม่มีกลิ่นเหม็น ที่ช่วยให้มั่นใจในการใช้ชีวิต และการทำกิจกรรมได้ตลอดทั้งวัน

 

การซักถุงเท้าให้หายเหม็น ด้วยการเลือกใช้วิธีซักถุงเท้าอย่างถูกต้อง เป็นกุญแจสำคัญในการขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ของถุงเท้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการแช่ถุงเท้าก่อนซักทุกครั้ง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่เหมาะสม ซักถุงเท้าด้วยมืหรือเครื่องซักผ้าอย่างถูกต้อง ล้างทำความสะอาดให้หมดจด และตากถุงเท้าให้แห้งสนิท เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก และแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความอับชื้น และกลิ่นเหม็น แต่ว่านอกจากการใช้วิธีซักถุงเท้าอย่างถูกต้องแล้ว ก็ต้องแก้ปัญหาจากสาเหตุด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ถุงเท้าให้เหมาะสม ล้างเท้าให้สะอาดเป็นประจำ ใช้แป้ง หรือสเปรย์ดับกลิ่น และหมั่นเช็ดเท้าให้แห้งทุกครั้งหลังจากล้าง เพื่อช่วยลดการสะสมของเหงื่อ และแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น และถ้าหากทำการดูแลทั้งถุงเท้า และเท้าได้อย่างครบถ้วน ก็สามารถหมดกังวลเรื่องปัญหาถุงเท้ามีกลิ่นอับ กลิ่นเหม็น และรู้สึกมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น

Tags: Lifestyle