โรงงานผลิตเส้นด้าย


การผลิตด้ายคืออะไร ?
คือกระบวนการเปลี่ยนวัตถุดิบ เช่น ฝ้าย ขนสัตว์ หรือไหม ให้เป็นเส้นด้ายที่สามารถนำไปใช้ในการทอผ้าหรือถักเสื้อผ้าได้ กระบวนการนี้มักประกอบด้วยการปั่นหรือบิดเส้นใยให้กลายเป็นเส้นด้ายที่มีความแข็งแรงและมีขนาดที่ต้องการ โดยความคงทน ความเรียบเนียน ไปจนถึงความสม่ำเสมอของเส้นด้าย ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเครื่องจักรในโรงงานนั้น ๆ ทั้งสิ้น
ขั้นตอนในการผลิตเส้นด้ายมีอะไรบ้าง ?
1. การเตรียมวัตถุดิบ
- การเก็บเกี่ยว: หากใช้ฝ้ายหรือขนสัตว์ ต้องเริ่มด้วยการเก็บเกี่ยวและทำความสะอาด
- การแยกเส้นใย: เช่น การแยกเส้นใยจากฝ้ายหรือการแยกขนแกะออกจากขนที่ไม่ต้องการ
2. การเปิดเส้นใย (Opening)
- การทำให้เส้นใยแยกออก: ใช้เครื่องจักรในการทำให้เส้นใยแยกออกจากกันและลดความยุ่งเหยิง
3. การสับเส้นใย (Carding)
- การแปรรูปเส้นใย: ใช้เครื่องการ์ดเพื่อจัดระเบียบเส้นใยให้เป็นแผ่นเรียบ
4. การปั่น (Spinning)
- การสร้างเส้นด้าย: ใช้เครื่องปั่นเพื่อบิดเส้นใยให้กลายเป็นเส้นด้ายที่มีความแข็งแรงและได้ขนาดที่ต้องการ
- การรวมเส้นด้าย (Twisting): อาจมีการบิดหรือรวมเส้นด้ายหลายๆ เส้นเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
5. การย้อมสี (Dyeing)
- การย้อมสีเส้นด้าย: หากต้องการเส้นด้ายที่มีสีเฉพาะ จะมีการย้อมสีในขั้นตอนนี้
6. การเคลือบและปรับปรุง (Finishing)
- การเคลือบ: อาจใช้สารเคลือบเพื่อเพิ่มคุณสมบัติเฉพาะ เช่น ความนุ่มนวลหรือความทนทาน
- การปรับปรุง: เช่น การทำให้เส้นด้ายเรียบหรือทำให้มีลักษณะพิเศษตามที่ต้องการ

การออกแบบเส้นด้ายต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง ?
การออกแบบด้ายต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีจุดพิจารณาต่าง ๆ ดังนี้
วัตถุประสงค์
อันดับแรกคือวัตถุประสงค์การใช้งาน ด้ายที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานทั่วไป เช่น เสื้อผ้าหรือผ้าทอ ต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสม เช่น ความนุ่มนวลและการระบายอากาศที่ดี ขณะที่ด้ายที่ใช้ในงานเฉพาะ เช่น ด้ายที่ทนทานต่อความร้อนหรือความยืดหยุ่นสูงสำหรับเสื้อผ้ากีฬา จะต้องมีคุณสมบัติที่เฉพาะเจาะจงตามความต้องการเหล่านั้น
ประเภทของเส้นใย
ประเภทของเส้นใยที่ใช้ในการผลิตด้ายก็มีบทบาทสำคัญในการออกแบบ เช่น เส้นใยธรรมชาติอย่างฝ้าย ขนสัตว์ หรือไหม จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น ความนุ่ม ความอบอุ่น ขณะที่เส้นใยสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเตอร์ หรือไนลอน จะมีคุณสมบัติที่เน้นความทนทานและความยืดหยุ่น
ขนาดและความหนา
ขนาดและความหนาของด้ายก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณา ขนาดของเส้นด้ายจะมีผลต่อความหนาของผ้าที่ผลิตออกมา ขณะที่ความหนาของด้าย (หรือที่เรียกว่า “Count”) จะบ่งบอกถึงความละเอียดและความแข็งแรงของเส้นด้าย
ความแข็งแรง ความทนทาน
ความแข็งแรงและความทนทานของด้ายเป็นสิ่งสำคัญ ด้ายต้องมีความแข็งแรงพอที่จะทนต่อการใช้งาน เช่น การทอผ้าหรือการเย็บ อีกทั้งยังต้องทนต่อการสึกหรอในกรณีที่ใช้งานหนัก ซึ่งการบิดและการจัดเรียงของเส้นด้ายก็ส่งผลโดยตรงกับความแข็งแรงและความทนทานของเส้นด้ายเช่นกัน
การบิดและการจัดเรียง
ลักษณะการบิดและการจัดเรียงเส้นด้ายก็มีผลต่อคุณสมบัติของด้าย การบิดของเส้นด้ายมีผลต่อความแข็งแรงและลักษณะของด้าย ในขณะที่การจัดเรียงเส้นด้ายหลายๆ เส้น (Plying) สามารถเพิ่มความแข็งแรงหรือให้ลักษณะเฉพาะ เช่นการระบายอากาศ ความยืดหยุ่น เป็นต้น
สีและลวดลาย
สีและลวดลายของด้ายก็มีความสำคัญ การเลือกสีและวิธีการย้อมสีจะต้องตอบสนองความต้องการของตลาด ขณะที่การออกแบบลวดลายหรือการทำให้เส้นด้ายมีลักษณะพิเศษสามารถสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ ทั้งยังส่งผลโดยตรงกับราคาต้นทุน ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละสีสันด้วย
ฟังก์ชั่นเพิ่มเติม
เช่นความต้องการพิเศษ อาทิด้ายที่ยืดหยุ่นพิเศษ ระบายอากาศได้ดี ทำจากวัสดุรีไซเคิล ไปจนถึงการเคลือบด้ายเพื่อคงสภาพสีสันให้อยู่คนทน ป้องกันการเกิดกลิ่นกาย หรือลดการสะสมของแบคทีเรีย ไปจนถึงฟีเจอร์ยอดนิยมตลอดการอย่างการเคลือบด้ายกันน้ำ
ต้นทุนการผลิต
สุดท้ายต้นทุนการผลิตเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณา การเลือกวัสดุและกระบวนการผลิตที่เหมาะสมกับงบประมาณสามารถช่วยให้การผลิตด้ายมีความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
วัสดุที่นิยมนำมาทำด้ายมีอะไรบ้าง
- ฝ้าย: เป็นวัสดุธรรมชาติที่ได้รับความนิยมสูงในอุตสาหกรรมการผลิตด้าย ฝ้ายมีคุณสมบัติที่นุ่มนวล ระบายอากาศได้ดี และมีความสามารถในการดูดซับความชื้น เหมาะสำหรับการทำเสื้อผ้าสบายๆ เช่น เสื้อยืดและกางเกงยีนส์
- ขนสัตว์: ได้มาจากขนของแกะหรือสัตว์อื่นๆ ขนสัตว์มีคุณสมบัติในการเก็บความร้อนและความนุ่ม เหมาะสำหรับการผลิตเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น เช่น สเวตเตอร์และผ้าพันคอ
- ไหม: ผลิตจากรังไหมของหนอนไหม ไหมมีความเงางามและความนุ่มนวลสูง เหมาะสำหรับการทำเสื้อผ้าหรูหราและผ้าไหม
- โพลีเอสเตอร์: เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความทนทานสูงและไม่ยับง่าย โพลีเอสเตอร์มีความสามารถในการกันน้ำและแห้งเร็ว มักใช้ในเสื้อผ้ากีฬาและเสื้อผ้าที่ต้องการการดูแลรักษาต่ำ
- ไนลอน: อีกหนึ่งเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อการสึกหรอ ไนลอนมักใช้ในเสื้อผ้าที่ต้องการความยืดหยุ่นและทนทาน เช่น กางเกงกีฬาและกระเป๋า
- อครีลิค: เส้นใยสังเคราะห์ที่มีความนุ่มนวลและมีน้ำหนักเบา มักใช้เป็นทางเลือกแทนขนสัตว์ในเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น เช่น สเวตเตอร์และผ้าพันคอ
- ลินิน: ได้จากพืชลินิน มีความแข็งแรงและระบายอากาศได้ดี แม้ว่าจะมีความยับง่าย แต่ลินินมีความทนทานและให้ความรู้สึกเย็นสบาย เหมาะสำหรับเสื้อผ้าสำหรับฤดูร้อน
ทำไมต้องสั่งผลิตเส้นด้ายกับ Thai Sock
Thai Sock เป็นมากกว่าโรงงานผลิตถุงเท้าและสิ่งทอ เราให้บริการแบบ One Stop Service พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรในด้านต่าง ๆ ดังนี้
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โรงงานของเรา ได้ประยุกต์ใช้ระบบการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และเป็นไปตามมาตรฐานสากล ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ ใช้สารเคมีที่ไม่เป็นอันตราย และลดการเกิดขยะจากกระบวนผลิต นอกจากนี้ยังหมั่นอัปเดตเทคโนโลยีใหม่อยู่เสมอ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ และประสิทธิภาพในการผลิตสิ่งทอ ช่วยลดการใช้พลังงาน
จัดการบุคลากรอย่างเป็นธรรม
Thai Sock ได้ประกาศตัวเป็นสมาชิกและมีการตรวจสอบจากองค์กรภายนอก ในด้านการบริหารจัดการบุคลากร เช่น Social & Labor Convergence (SLCP) และ SEDEX (The Supplier Ethical Data Exchange) ตามวิสัยทัศน์ขององค์กร ที่มุ่งมั่นจะดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมและถูกต้องด้านจริยธรรมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งลูกค้า คู่ค้า ชุมชน สังคม และพนักงานภายในองค์กร
ควบคุมคุณภาพสินค้าให้สม่ำเสมอ
นอกจากการใช้เครื่องจักรกว่า 700 เครื่อง และอัปเดตเทคโนโลยีการผลิตอยู่เสมอแล้ว โรงงานผลิตด้านของ Thai Sock ยังตรวจสอบวัตถุดิบทุก lot. ในห้องแล็ป ทั้งทดสอบความคงทนของสี (Colour Fastness Tests), เส้นด้าย (Yarn Tests), การเปลี่ยนแปลงขนาด (Shringkage Test) และการขัดถู (Abrasion Test) เพื่อควบคุมให้สินค้าทุกชิ้นมีคุณภาพสม่ำเสมอ
สินค้าปลอดภัยต่อผู้บริโภค
การใช้สารเคมีในโรงงานผลิตเส้นด้ายของ Thai Sock เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานควบคุม RSL (Restricted Substances List) เพื่อไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ เรายังได้ประกาศตนใน ZDHC ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างหลายองค์กร เพื่อสนับสนุนแนวทางปฏิบัติด้านการจัดการสารเคมีที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการสั่งผลิตด้ายกับ บริษัท ถุงเท้าไทย
การใช้บริการโรงงานผลิตสิ่งทอ ถุงเท้าไทย มีขั้นตอนการสั่งผลิต ดังนี้
- กรอกแบบฟอร์มลูกค้าใหม่ : กรอกข้อมูลส่วนตัวและช่องทางการติดต่อกลับในแบบฟอร์มออนไลน์ เช่น ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์ รวมถึงแนบแบบร่าง และราคาที่กำลังมองหา
- ตกลงราคาและเงื่อนไขการผลิต : ทางทีมขายของเราจะติดต่อกลับไป เพื่อแจ้งรายละเอียดและ
- ส่งมอบ : การส่งมอบภายในประเทศ ใช้เวลา 3-5 วัน
หมายเหตุ: ขั้นต่ำและระยะเวลาการทำงานอาจมีการเปลี่ยนแปลง หากต้องการวัตถุดิบพิเศษ หรือขั้นตอนพิเศษ
